การจัดการรีสอร์ท : วิธีเริ่มต้นอาชีพในฝันของคุณในธุรกิจการบริการ 

การจัดการรีสอร์ท เป็นสายงานที่ต้องเจอกับความหลากหลายและความตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา เพราะในแต่ละวันจะมีความท้าทายใหม่ ๆ เข้ามาให้รับมือ ซึ่งเป็นโอกาสที่คุณจะได้พัฒนาตัวเองไปพร้อมกัน เป็นบทบาทที่ต้องใช้ทั้งความรู้ด้านธุรกิจ ทักษะการสื่อสาร ความเป็นผู้นำ และการใส่ใจในรายละเอียด หลายคนชอบการทำงานในรีสอร์ทเพราะได้อยู่ในสถานที่ที่สวยงาม พบผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ และได้มีส่วนร่วมในการสร้างความทรงจำที่น่าประทับใจให้กับผู้มาเยือน

เส้นทางสู่การเป็นผู้จัดการรีสอร์ท

ผู้จัดการรีสอร์ทมีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานประจำวันทั้งหมดภายในรีสอร์ท โดยรับผิดชอบการบริหารจัดการพนักงาน การดูแลแขกให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด การจัดการงบประมาณ การประสานงานระหว่างแผนกต่าง ๆ และการรักษามาตรฐานการบริการให้มีคุณภาพสม่ำเสมอในทุกพื้นที่ของรีสอร์ท

การก้าวสู่ตำแหน่งผู้จัดการรีสอร์ทต้องอาศัยทักษะที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านการเป็นผู้นำ การสื่อสาร และการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งวุฒิการศึกษาด้านการจัดการธุรกิจบริการ ประสบการณ์การทำงานจริงในแผนกต่าง ๆ และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการบริการลูกค้าและการบริหารจัดการทีมงาน ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในสายอาชีพสุดท้าทายนี้

การศึกษาต่อระดับปริญญา

การศึกษาต่อระดับปริญญาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการรีสอร์ทจะช่วยเสริมทั้งทักษะการทำงาน และทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์ที่จะทำให้คุณก้าวหน้าในอาชีพและเติบโตอย่างมั่นคงในสายงานบริการ  

หลักสูตรของ Swiss Hotel Management School (SHMS) ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมการบริการโดยเฉพาะ นั่นคือหลักสูตรปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการการบริการระหว่างประเทศ Bachelor of Arts in International Hospitality Management ซึ่งใช้เวลาเรียน 3 ปี เนื้อหาครอบคลุมทั้งการปฏิบัติงานในโรงแรม การบริการลูกค้า การบริหารธุรกิจ และทักษะสำคัญในสายงานบริการ 

สำหรับผู้ที่มีเป้าหมายก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำ คุณสามารถเลือกเรียนต่อในหลักสูตรปริญญาโทศิลปศาสตร์ สาขาการจัดการธุรกิจบริการระหว่างประเทศ Master of Arts in International Hospitality Business Management หรือหลักสูตรอนุปริญญาโท สาขาการจัดการโรงแรม รีสอร์ท และสปา ระหว่างประเทศ Postgraduate Diploma in International Hotel, Resort, and Spa Management หลักสูตรปริญญาโทจะเน้นพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ ความเป็นผู้นำ การบริหารธุรกิจ และนวัตกรรม ซึ่งออกแบบมาให้เหมาะกับการบริหารรีสอร์ทหรูโดยเฉพาะ ส่วนหลักสูตรอนุปริญญาโทจะเน้นการฝึกปฏิบัติจริง พร้อมวางรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านการจัดการโรงแรม รีสอร์ท และสปา รวมทั้งเสริมสร้างประสบการณ์ด้านการเป็นผู้นำ การดำเนินงานในองค์กรระดับโลก และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

นอกจากนี้ เรายังมีหลักสูตรออนไลน์อย่าง Online Master of Arts in Executive Hospitality Management ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานแล้วหรือนักศึกษาต่างชาติ ผู้เรียนสามารถจัดเวลาเรียนได้เอง และยังสามารถทำงานควบคู่ไปกับการเรียนได้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สถาบัน 

สะสมประสบการณ์ในสายงานบริการ 

ประสบการณ์การทำงานจริงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการเติบโตในสายงานบริการ การสะสมประสบการณ์จากตำแหน่งเริ่มต้นอย่างพนักงานต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟ หรือแม่บ้าน จะทำให้คุณเข้าใจการทำงานของแต่ละแผนกอย่างลึกซึ้ง และพร้อมที่จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้จัดการในอนาคตอย่างมั่นใจ

การฝึกงาน การทำงานพาร์ทไทม์ และการทำงานอาสาสมัครเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในสายงานบริการ เพราะงานเหล่านี้ช่วยให้คุณได้พัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น การบริการลูกค้า การบริหารเวลา และการทำงานหลายอย่างพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

พัฒนาทักษะการบริหาร 

ความสำเร็จในการจัดการรีสอร์ทไม่ได้อาศัยเพียงความรู้ด้านการบริการเท่านั้น แต่ยังต้องมีทักษะการบริหารที่หลากหลาย โดยทักษะสำคัญที่ผู้จัดการรีสอร์ทควรมี ได้แก่ 

• ความเป็นผู้นำ : ผู้จัดการรีสอร์ทต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทีมงาน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่งานยุ่งหรือกดดัน การทำหน้าที่ผู้นำอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน คอยกระตุ้นให้ทีมงานมีกำลังใจ และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ส่งเสริมให้ทุกคนได้เติบโต
• การสื่อสาร : การสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพเป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับการประสานงานกับแผนกต่าง ๆ การแก้ปัญหาให้ลูกค้า หรือการมอบหมายงานให้พนักงาน ผู้จัดการต้องรับฟังอย่างตั้งใจ ให้คำแนะนำที่สร้างสรรค์ และสามารถสื่อสารได้อย่างดีเยี่ยมกับผู้คนจากหลากหลายวัฒนธรรมและภาษา
• การจัดงบประมาณและบริหารการเงิน : ผู้จัดการรีสอร์ทต้องตรวจสอบค่าใช้จ่าย ควบคุมต้นทุน และวางแผนกลยุทธ์เพิ่มอัตราการเข้าพัก ซึ่งการมีทักษะที่ยอดเยี่ยมในการจัดงบประมาณจะช่วยให้ผู้จัดการรีสอร์ทสามารถรักษาผลกำไรของธุรกิจและตัดสินใจได้อย่างรอบคอบ 
• การแก้ปัญหา : รีสอร์ทเป็นสถานที่ที่มีจังหวะการทำงานที่รวดเร็วและไม่แน่นอน ปัญหาอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ผู้จัดการจึงต้องพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้องเรียนจากลูกค้า การขาดแคลนพนักงาน หรือปัญหาทางเทคนิค
• การบริการลูกค้า : ผู้จัดการรีสอร์ทต้องมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าด้วยการรักษามาตรฐานการบริการให้ยอดเยี่ยม รับมือกับข้อร้องเรียนอย่างมืออาชีพ และฝึกอบรมพนักงานอยู่เสมอ
• การทำงานเป็นทีมและการประสานงาน : การดำเนินงานของรีสอร์ทต้องอาศัยการร่วมมือของหลายแผนก ทั้งแผนกแม่บ้าน แผนกอาหาร แผนกต้อนรับ แผนกซ่อมบำรุง ฯลฯ ผู้จัดการรีสอร์ทต้องส่งเสริมการการทำงานร่วมกันและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อให้การดำเนินงานในภาพรวมเป็นไปอย่างราบรื่นและผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ
• การบริหารเวลา : หน้าที่ประจำวันของผู้จัดการรีสอร์ทคือการจัดตารางงาน การจัดลำดับความสำคัญของหน้าที่ และการทำงานให้ทันตามกำหนด หากผู้จัดการรีสอร์ทมีทักษะการบริหารเวลาที่ยอดเยี่ยม ก็จะส่งผลดีต่อทั้งพนักงานและลูกค้า
• ความฉลาดทางอารมณ์ : ผู้จัดการรีสอร์ทควรรู้เท่าทันและควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดี มีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สามารถรับมือกับสถานการณ์ที่กดดัน และให้การสนับสนุนทีมงานได้เมื่อเผชิญปัญหา นอกจากนี้การมีความฉลาดทางอารมณ์ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งพนักงานและลูกค้าด้วย
• การแก้ไขความขัดแย้ง : ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทขนาดเล็กหรือใหญ่ ความขัดแย้งย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ โดยอาจเป็นการขัดแย้งระหว่างทีมงานหรือลูกค้ากับพนักงาน ผู้จัดการที่ดีต้องใจเย็น เป็นกลาง และเน้นการหาทางออกอย่างมืออาชีพเพื่อรักษาชื่อเสียงของรีสอร์ท

การสมัครงานในสายบริหาร

การเริ่มต้นอาชีพในสายบริหารนอกจากจะต้องมีวุฒิการศึกษาที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังต้องอาศัยทักษะการคิดเชิงกลยุทธ์ ทักษะการนำเสนอ และการสร้างเครือข่ายในแวดวงอาชีพ นักศึกษาที่ Swiss Hotel Management School (SHMS) มีข้อได้เปรียบในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลระดับโลกและโอกาสในการสร้างเครือข่ายตั้งแต่เริ่มเรียน ผู้ที่มีเป้าหมายในการเป็นผู้จัดการรีสอร์ทจึงสามารถเริ่มต้นอาชีพได้อย่างรวดเร็วหลังจบการศึกษา 

สิ่งที่จะทำให้คุณโดดเด่นในสายงานบริการ ได้แก่ 

• เรซูเมที่น่าสนใจ : ปรับแต่งเรซูเมให้เข้ากับตำแหน่งที่ต้องการสมัคร โดยเน้นประสบการณ์ด้านการเป็นผู้นำ การจัดการงานประจำวัน และการบริการลูกค้า สิ่งสำคัญคืออย่าลืมแนบตัวอย่างผลงาน พร้อมระบุทักษะทางสังคม (Soft Skills) ของคุณ เช่น การทำงานเป็นทีม การปรับตัว และการสื่อสาร
• การสร้างเครือข่าย : สร้างเครือข่ายในสายอาชีพด้วยการเข้าร่วมงาน Networking, การใช้เว็บไซต์ LinkedIn, การพบปะศิษย์เก่า รวมถึงการฝึกงาน เพื่อขยายเครือข่ายของตนเองและเพิ่มโอกาสได้งานที่อาจไม่ได้ประกาศทั่วไป
• ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง : สั่งสมประสบการณ์ตรงในสายงานบริการ โดยเฉพาะงานที่เปิดโอกาสให้แสดงความเป็นผู้นำและความสามารถในการทำงานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย   
• การเตรียมตัวสัมภาษณ์ : เตรียมพร้อมในการเล่าถึงสถานการณ์จริงที่เคยเผชิญและวิธีที่คุณรับมือ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์สำคัญเพื่อแสดงให้เห็นทักษะการแก้ปัญหา ภาวะผู้นำ และความรักในงานบริการ 

ข้อดีของการศึกษาต่อระดับปริญญาด้านการจัดการรีสอร์ท

การศึกษาต่อระดับปริญญาด้านการจัดการรีสอร์ทไม่เพียงแค่เปิดประตูสู่โอกาสการทำงานในรีสอร์ทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอาชีพอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมการบริการด้วยเช่นกัน คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการ การเป็นผู้นำ การบริการลูกค้า และการวางกลยุทธ์ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานสายบริหารได้เช่นกัน

ความก้าวหน้าในสายอาชีพ

หากคุณมีความสนใจด้านการจัดการรีสอร์ท การศึกษาต่อระดับปริญญาในสาขาที่เกี่ยวข้องคือก้าวแรกที่จะทำให้คุณเติบโตและประสบความสำเร็จในสายอาชีพ ด้วยหลักสูตรที่มุ่งเน้นทั้งความรู้และทักษะเฉพาะทางในอุตสาหกรรมการบริการ คุณจะมีข้อได้เปรียบในตลาดงานที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน และสามารถเติบโตสู่ตำแหน่งที่มีรายได้สูงหรือบทบาทผู้นำได้ตั้งแต่ช่วงต้นของอาชีพ นอกจากนี้ วุฒิการศึกษาเฉพาะทางยังช่วยให้คุณก้าวสู่สายบริหารได้เร็วกว่าผู้ที่ไม่ได้เรียนจบมาโดยตรง นำไปสู่โอกาสที่จะได้เลื่อนตำแหน่งเร็วขึ้นหรือได้รับค่าตอบแทนสูงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทำงานกับโรงแรมหรือรีสอร์ทชั้นนำ

ความหลากหลายในอุตสาหกรรม

ปริญญาด้านการจัดการรีสอร์ทเป็นรากฐานที่ทำให้คุณสามารถทำงานได้หลากหลายในอุตสาหกรรมการบริการ ด้วยทักษะที่นำไปใช้ได้อย่างครอบคลุมหลายส่วน ผู้เรียนจะได้รับการฝึกอบรมด้านการจัดการดำเนินงาน การบริการลูกค้า การตลาด การวางแผนอิเวนต์ และการจัดการด้านการเงิน ทำให้คุณมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการปรับเปลี่ยนบทบาทการทำงานอย่างราบรื่น เช่น จากตำแหน่งหัวหน้าแผนกต้อนรับในรีสอร์ท คุณอาจขยับไปทำงานด้านการประสานงานอิเวนต์ ผู้จัดการแผนกอาหารและเครื่องดื่ม หรือจะเป็นแผนกบริการลูกค้าก็ได้ การมีประสบการณ์ในหลากหลายแผนกเช่นนี้จะทำให้คุณมีความพร้อมสำหรับการเติบโตสู่ตำแหน่งผู้นำ เช่น ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ผู้จัดการระดับภูมิภาค หรือที่ปรึกษาด้านธุรกิจบริการ

ความมั่นคงในสายงาน

ตำแหน่งผู้จัดการรีสอร์ทเป็นที่ต้องการสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 และเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.3% นักท่องเที่ยวยุคนี้มองหาประสบการณ์ที่แปลกใหม่ รีสอร์ทหลายแห่งจึงต้องการบุคลากรที่มีความสามารถในการบริหารจัดการ ปรับตัวตามเทรนด์ และมอบบริการที่น่าพึงพอใจแก่ผู้เข้าพัก นำมาซึ่งโอกาสงานที่มากขึ้นและความก้าวหน้าระยะยาวในสายอาชีพ

การเปิดมุมมองด้านวัฒนธรรม

สายอาชีพด้านการจัดการรีสอร์ทเปิดโอกาสให้คุณได้ทำงานในสถานที่ทั่วโลกและได้พบปะกับผู้คนจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทริมทะเลในแถบแคริบเบียน ลอดจ์สกีในเทือกเขาแอลป์ หรือรีสอร์ทรักษ์โลกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บทบาทผู้จัดการรีสอร์ทในสายงานนี้ช่วยให้คุณได้ซึมซับวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ ในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมสร้างทักษะการสื่อสารที่ดีเยี่ยม มีความสามารถในการปรับตัว และความตระหนักรู้ทางวัฒนธรรมไปด้วย

การแบ่งสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance)

หนึ่งในข้อดีของงานด้านการจัดการรีสอร์ทคือการได้ใช้ชีวิตและทำงานในสถานที่ที่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นวันหยุด ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ทกลางขุนเขา เกาะในเขตร้อน หรือที่พักริมทะเล สภาพแวดล้อมที่งดงามเหล่านี้ช่วยเติมเต็มคุณภาพชีวิต มอบความผ่อนคลาย และเสริมความสมดุลระหว่างความรื่นรมย์ในชีวิตส่วนตัวกับความจริงจังในการทำงาน 

รีสอร์ทหลายแห่งให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและส่งเสริมเรื่องนี้อย่างจริงจังด้วยการจัดตารางงานที่ยืดหยุ่น การอนุญาตให้ลางานแบบได้รับค่าจ้าง และโครงการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันการเหนื่อยล้าจากการทำงาน นอกจากนี้ การจัดเวรหมุนเวียน สัญญาจ้างตามฤดูกาล และโปรแกรมช่วยเหลือพนักงานในด้านต่าง ๆ ก็ช่วยให้พนักงานสามารถบริหารจัดการเวลาได้อย่างอิสระยิ่งขึ้นเช่นกัน

เทรนด์ใหม่ ๆ ในสายงานการจัดการรีสอร์ท

การบริหารจัดการรีสอร์ทเป็นสายงานที่เปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองความต้องการและความคาดหวังที่เปลี่ยนไปของผู้เข้าพัก สำหรับบทบาทผู้จัดการรีสอร์ท การติดตามเทรนด์ล่าสุดในอุตสาหกรรมการบริการเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจรักษาความสามารถในการแข่งขัน และยังคงความน่าสนใจแม้ตลาดจะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ

• การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน : รีสอร์ทให้ความสำคัญมากขึ้นกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการขยะ และการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น
• การดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม : แนวทางที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของแวดวงรีสอร์ท เช่น การใช้วัสดุที่ใช้ซ้ำได้แทนพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว ปัจจุบันรีสอร์ทหลายแห่งให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารอย่างยั่งยืน โดยมีการจ้างเชฟที่เชี่ยวชาญด้านอาหารท้องถิ่น แพลนต์เบส และอาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
• AI และระบบอัตโนมัติ : เทคโนโลยี AI เริ่มมีบทบาทสำคัญในการบริการแขกในรีสอร์ท ทั้งระบบเช็กอินอัตโนมัติ ฟีเจอร์ห้องพักอัจฉริยะ คำแนะนำส่วนตัวจาก AI และบริการผู้ช่วยเสมือนจริง (Virtual Concierge Services)
• การบริการด้านสุขภาพและสุขภาวะโดยรวม : ผู้เข้าพักในยุคนี้มักมองหาประสบการณ์ที่เน้นการดูแลสุขภาพมากขึ้น รีสอร์ทจึงขยายกิจการให้ครอบคลุมทั้งโปรแกรมการออกกำลังกาย อาหารเพื่อสุขภาพ การทำสมาธิ สปา และการพักผ่อนแบบองค์รวม
• การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์และความหรูหรา : นักท่องเที่ยวมองหาประสบการณ์ที่เปี่ยมความหมายและสามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการส่วนตัว รวมถึงการสัมผัสวัฒนธรรม การผจญภัย และกิจกรรมที่แปลกใหม่ ไม่ซ้ำใคร รีสอร์ทหรูในปัจจุบันจึงเน้นตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้มากขึ้น 

คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะก้าวสู่ความสำเร็จในสายงานรีสอร์ท ?

สายงานนี้เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีใจรักในการสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับผู้เข้าพัก รวมทั้งการบริหารทีมงาน และการจัดการการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ของรีสอร์ทให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณสนใจในอาชีพผู้จัดการรีสอร์ทและต้องการเรียนต่อด้านการจัดการธุรกิจบริการระหว่างประเทศที่สถาบันชั้นนำในสวิตเซอร์แลนด์ ติดต่อทีมงาน Swiss Education Group ได้เลยที่เบอร์โทรศัพท์ 02-652-1481 หรือ LINE @studyinswitzerland เพื่อพูดคุยกับเราโดยตรง

คำถามที่พบบ่อย

ตำแหน่งสูงสุดในรีสอร์ทคือตำแหน่งอะไร ?

ตำแหน่งสูงสุดในรีสอร์ทมักจะเป็นผู้จัดการทั่วไป (General Manager หรือ GM) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลการดำเนินงานทั้งหมดในรีสอร์ท รวมถึงบริหารจัดการแผนกต่าง ๆ 

ผู้จัดการรีสอร์ทมีหน้าที่อะไรบ้าง ?

ผู้จัดการรีสอร์ทมีหน้าที่ดูแลการดำเนินงานประจำวันให้เป็นไปอย่างราบรื่น สร้างความพึงพอใจให้กับแขกผู้เข้าพัก บริหารจัดการทีมงาน และรักษามาตรฐานการบริการ

ผู้จัดการประจำกะ (Resort Duty Manager) มีหน้าที่อะไรบ้าง ?

ผู้จัดการประจำกะมีหน้าที่ดูแลและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของผู้เข้าพัก ควบคุมดูแลการดำเนินงานในช่วงเวลาที่ตนรับผิดชอบ และตรวจสอบให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นแม้ในเวลาที่ผู้จัดการรีสอร์ทไม่อยู่