The Customer is always right ลูกค้าคือผู้ที่ถูกต้องเสมอ ประโยคอมตะจาก César Ritz

“The Customer is always right” ลูกค้าคือผู้ที่ถูกต้องเสมอ ประโยคอมตะจาก César Ritz บิดาแห่งการโรงแรมสมัยใหม่ของสวิตเซอร์แลนด์วิชาการโรงแรมและการบริการอันเลื่องชื่อของชาวสวิสมีต้นกำเนิดจากบุคคลผู้นี้ เซซาร์ ริทซ์ (César Ritz: 1850-1918)

เปิดหน้าประวัติศาสตร์ ที่สวยงามและมีชีวิต ร่องรอยอดีตที่ไม่เคยจางหายไป ต้นฉบับตำนานการปลูกสร้างและรังสรรค์จิตวิญญาณแห่งการส่งต่อความสำเร็จ สถานที่บันทึกยุคสมัยและความทรงจำ เป็นคุณค่ายิ่งต่อการเรียนรู้ ......

ย้อนกลับไปในอดีต คงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก ถ้าจะบอกว่าโรงแรมหรูในกรุงปารีส ที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมคลาสสิค สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่คราคร่ำไปด้วยเหล่าคนชนชั้นสูง และบุคคลสำคัญที่เป็นตำนาน อย่างกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7, เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์, สกอตต์ ฟิตซ์เจอรัลด์ และ โคโค่ชาแนล ที่ใช้ห้องสวีทของโรงแรมเป็นบ้าน และเป็นแหล่งสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างแบนด์ดังระดับโลกอย่างชาแนล ถึง 35 ปี ซึ่งนี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของตำนานที่เกิดจากอดีตเด็กชายลูกชาวนา วัย 13 ปี ที่ชื่อ “เซซาร์ ริทซ์”

จากเด็กหนุ่มวัยเพียง 13 ปี ในครอบครัวชาวนา แห่งหมู่บ้านนีเดอร์เวา ผู้มีดวงตาแห่งความมุ่งมั่น ตัดสินใจออกเดินทางแสวงหาความสำเร็จ ผจญชะตากรรมในกรุงปารีส ครั้งนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนและเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดในชีวิต ริทซ์ได้ลิ้มรสงานบริการด้วยการเป็นบริกรซึ่งอาจดูเป็นงานที่ง่าย แต่ค่อนข้างเหนื่อยเพราะมันต้องใช้ความอดทน และความพยายามที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ แต่ริทซ์ก็สามารถทำหน้าที่ได้ดี  ริทซ์ได้เรียนรู้บททดสอบจากประสบการณ์จริง จนกระทั่งได้เป็นผู้จัดการภัตตาคารหรู Restaurant Voisin ได้ต้อนรับ ซาราห์เบิร์นฮาร์ท, จอร์จ แซนด์, เทโอฟิล โกติเยร์ และอะเล็กซองดร์ดูมา เมนูยอดนิยมระดับตำนานของภัตตาคารนี้คือ หางช้างเสิร์ฟในซอสชาสเซอร์ในปี 1873 เขาได้รับประสบการณ์อันทรงคุณค่าจากการเป็นบริกรที่เวียนนาในช่วงที่มีนิทรรศการนานาชาติ (International Exhibition 1873) ได้สั่งสมความรู้เกี่ยวกับการโรงแรมและศิลปะการทำอาหารเพื่อบริการบุคคลสำคัญระดับราชวงศ์ เช่น เจ้าชายแห่งเวลส์ความสามารถอันส่องประกายฉายชัดขึ้นเมื่อเขาได้เป็นผู้จัดการที่ แกรนด์ โฮเต็ลเนชั่นแนล (Grand Hôtel National ) ที่เมืองลูเซิร์นและอีกสาขาที่ประเทศโมนาโกในเวลาเดียวกันภายใต้การบริหารงานของริทซ์ ที่แกรนด์ โฮเต็ลเนชั่นแนลที่เมืองลูเซิร์นได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงแรมที่หรูหราที่สุดในยุโรป เป็นที่มาของคำคม “เห็นทุกอย่างโดยไม่ต้องมอง ได้ยินทุกอย่างโดยไม่ต้องฟัง” และประโยคอมตะ “The customer is always right.” ลูกค้าคือผู้ที่ถูกต้องเสมอ

ออกุสต์ เอสกอฟฟิเยต์ (Auguste Escoffier) เพื่อนร่วมอุดมการณ์ที่มีความสนิทจนกลายเป็นมิตรแท้ทางธุรกิจ ถ้าให้นิยามความเป็น "ออกุสต์" ออกุสต์ คือไบเบิ้ลอาหารฝรั่งเศสที่มีลมหายใจ อัจฉริยภาพแห่งศาสตร์การปรุงอาหารฝรั่งเศส จนใครต่อใครต่างขนานนามให้เป็นบิดาแห่งอาหารฝรั่งเศสในยุคนั้น ทั้งคู่ร่วมกันเปิดภัตตาคาร Conservations Haus ที่เมืองบาเดน-บาเดน จากนั้นได้รับเชิญ เป็นผู้จัดการและเชฟใหญ่ที่โรงแรมซาวอย (Savoy Hotel) ในเมืองลอนดอนในปี 1889 ที่ซึ่งใช้รับรองเจ้านายแห่งราชวงศ์อังกฤษอาทิ เจ้าชายแห่งเวลส์ รวมถึงเชื้อพระวงศ์สำคัญแห่งยุโรป ข้าราชสำนัก และคนดังในแวดวงสังคมชั้นสูงความยอมรับทางด้านอัจฉริยะภาพแห่งการปรุงอาหารฝรั่งเศษเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น บ่อยครั้งที่ทั้ง 2 รังสรรค์เมนูที่เกิดจากแรงบันดาลใจ ซึ่งแน่นอนมันสัมผัสได้มากกว่าการเป็นอาหารที่เลิศรส และ พีชเมลบา (Peche Melba) คือหนึ่งในหลายๆเมนูที่เป็นจานเด็ด เมนูแนะนำของโรงแรมซาวอย (Savoy Hotel)

ในยุคนั้นทุกความสำเร็จย่อมมีจุดเปลี่ยนเสมอ เมื่อเค้าต้องออกจากโรงแรมซาวอย (Savoy Hotel) ด้วยสาเหตุถูกกลั่นแกล้งในการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สู้ดีนัก ก็ยังแฝงด้วยกำลังใจมากมายพนักงานหลายคนรวมถึง เลดี้ เดอเกรย์ ถึงกับกล่าวว่า “ริทซ์ไปที่ไหน ฉันจะไปที่นั่น” และด้วยเหตุนั้นริทซ์ และพนักงานบางส่วนที่ยังคงเชื่อมั่นในตัวของริทซ์ จึงได้ไปร่วมบุกเบิกโรงแรมคาร์ลตัน (Carlton Hotel) ในนิวมาร์เก็ต ต่อมาปลายทศวรรษ 1890 เซซาร์ ริทซ์ ก็ก่อตั้งเครือโรงแรมริทซ์ ร่วมกับมหาเศรษฐีชาวแอฟริกาใต้อัลเฟรด เบท (Alfred Beit) ผู้ได้ฉายามหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกของยุคนั้น วันที่ 1 มิถุนายน 1898 โรงแรมริทซ์ (Ritz Hôtel) ได้ฤกษ์เปิดตัวที่จตุรัส ปลาส ว็องโดมในกรุงปารีส โดยมี เลดี้ เดอเกรย์ดยุค และดัชเชสแห่งโรฮาน คาลูสต์ กัลเบนเคียนและมาร์เซล พรูสต์ ได้ร่วมติดตามมาด้วย

การเปิดโรงแรมริทซ์ (Ritz Hôtel) ที่กรุงลอนดอนในปี 1906 ซึ่งเป็นที่โจษขานว่า หากอยากพบเศรษฐีและคนดังของโลก ให้มาที่โรงแรมริทซ์ในลอนดอนกษัตริย์อัลฟองโซที่ 13 แห่งสเปนทรงโปรดความหรูหราของโรงแรมริทซ์ (Ritz Hôtel) ที่กรุงปารีสอย่างยิ่ง จนในที่สุดโรงแรมริทซ์ (Ritz Hôtel) ก็ได้เปิดตัวที่กรุงมาดริดประเทศสเปนเมื่อปี 1910 จนกระทั่งริทซ์เกษียณจากการทำงาน กิจการโรงแรมริทซ์ (Ritz Hôtel) ในกรุงปารีส ถูกส่งต่อความสำเร็จสู่ ชาร์ลส์ ริทซ์ ผู้เป็นบุตรชายก่อนที่ริทซ์จะถึงแก่กรรม ในปี 1918 ปัจจุบันโรงแรมริทซ์ (Hôtel Ritz) ถูกซื้อกิจการไปโดยมหาเศรษฐีชาวอียิปต์ โมฮัมเหม็ด อัล-ฟาเอ็ด และปิดกิจการเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2012 เพื่อปรับปรุงครั้งใหญ่ และเปิดให้บริการในเวลาต่อมา โรงแรมริทซ์ (Ritz Hôtel) ได้ชื่อว่าเป็น “หนึ่งในโรงแรมชั้นนำของโลก”และมีชื่อเสียงในการเป็นโรงแรมแนวหน้าของยุโรปซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้คือบางส่วนของคำว่า....ตำนาน

หน้าที่ของตำนาน และประวิติศาสตร์คือการทรงคุณค่าและเป็นคุณูปการทางด้านการศึกษา ริทซ์ได้ทรงสร้างแบบแผนและแบบอย่างการเรียนรู้ ที่สามารถส่งต่อถึงคนรุ่นหลังผ่านการเป็นโรงเรียนที่ซึ่งบ่มเพาะความรู้และสร้างความพยายามบางอย่างให้แก่ผู้ที่มีความมุ่งมั่นที่อยากจะประสบความสำเร็จในสายงานด้านการโรงแรม César Ritz CollegesSwitzerland (CRCS) จึงเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่เต็มไปด้วยลมหายใจของบุคคลในตำนานอย่าง เซซาร์ ริท César Ritz Colleges Switzerland (CRCS) โรงเรียนการโรงแรมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดสอนทักษะความรู้การบริหารธุรกิจโรงแรมระดับ World-Class มี 3 วิทยาเขต ได้แก่ Le Bouveret (เลอบูเวอเรต์), Lucerne (ลูเซิร์น) และ Brig (บริก) มุ่งเน้นการพัฒนาศักยภาพนักเรียนให้มีความรู้เชิงวิชาการ ปรับทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับการให้บริการในความหลากหลายทางวัฒนธรรม เปิดโอกาสการฝึกประสบการณ์ภาคปฎิบัติ ที่ได้รับค่าตอบแทน César Ritz Colleges เป็นสถาบันการโรงแรมที่มีชื่อเสียงในความเป็นเลิศทางการศึกษา มากกว่า 30 ปี มีเครือข่ายศิษย์เก่าที่มีสัมพันธภาพที่ดี และมีตำแหน่งสำคัญๆ ในธุรกิจโรงแรมทั่วโลก

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเค้าเหล่านั้นคือบุคลกรคุณภาพที่ได้รับการยอมรับจากสถาบันจากสถาบันชั้นนำต่างๆ

Our News & Blogs

ศิษย์เก่า Robert Kostecki แชร์ 3 เคล็ดลับให้คุณเต็มที่กับการทำงานยิ่งขึ้น

Montreux the home of Swiss Hotel Management School and HIM-Montreux

พัฒนาทักษะทางอารมณ์ให้สมบูรณ์แบบเพื่อความสำเร็จในอาชีพการงาน

4 สถาบัน ในเครือ Swiss Education Group ติด Ranked สถาบันที่ดีที่สุดในโลกอีกครั้ง!

Chat With Us