ทักษะทางการเงินไม่ใช่แค่เรื่องของการคำนวณรายรับรายจ่าย หรือหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้บัตรเครดิตเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานของการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดในทุกด้านของชีวิต โดยเฉพาะในโลกของธุรกิจ อย่างไรก็ตามนักเรียนส่วนมากก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่โดยขาดความเข้าใจพื้นฐานทางการเงิน หลายคนเริ่มต้นชีวิตทำงานพร้อมปัญหาการเงินส่วนตัวเนื่องจากยังไม่มีความรู้เพียงพอในการจัดการ ซึ่งปัญหาเล็ก ๆ เหล่านี้อาจกลายเป็นอุปสรรคใหญ่ในเส้นทางอาชีพได้ เพราะฉะนั้นความรู้ทางการเงินจึงไม่ควรถูกมองเป็นเพียงทักษะเสริม แต่ควรถูกยกระดับให้เป็นทักษะสำคัญที่คนรุ่นใหม่ทุกคนต้องมี โดยเฉพาะผู้ที่ใฝ่ฝันจะเติบโตในแวดวงธุรกิจ
การเงินเปรียบเสมือนภาษาหนึ่งที่แม้จะดูซับซ้อนในตอนแรก แต่หากได้เรียนรู้ก็ไม่ยากเกินจะเข้าใจ ทักษะทางการเงิน หรือ Financial Literacy มีความสำคัญมากในการช่วยให้คนรุ่นใหม่มีความสามารถในการเข้าใจ จัดการ และนำหลักการทางการเงินไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในชีวิตส่วนตัวและในสายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจเรื่องเงินในชีวิตประจำวันหรือการวางแผนระยะยาว ทักษะที่รวมอยู่ในความรู้ทางการเงิน ได้แก่ การวางแผนงบประมาณ การออมเงิน การกู้ยืมอย่างมีความรับผิดชอบ และการลงทุนอย่างมีเป้าหมาย
แม้ความรู้ทางการเงินจะเป็นหัวข้อที่ค่อนข้างกว้าง แต่ความจริงแล้วมีองค์ประกอบสำคัญอยู่ไม่กี่อย่าง ดังนี้ :
การวางแผนงบประมาณคือการติดตามรายจ่ายและการใช้เงินอย่างมีเป้าหมาย อีกทั้งยังเป็นรากฐานของความมั่นคงทางการเงินเนื่องจากช่วยควบคุมไม่ให้ใช้จ่ายเกินตัว ใช้ชีวิตตามกำลังทรัพย์ของตนเอง และจัดสรรรายได้อย่างเหมาะสมเพื่อเป้าหมายที่วางไว้
การเริ่มต้นวางแผนงบประมาณ สามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้ :
“อย่าออมเงินที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่จงใช้จ่ายจากเงินที่เหลือหลังการออม”
– วอร์เรน บัฟเฟตต์
การออมไม่ได้มีไว้แค่รับมือกับเหตุฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังช่วยลดภาระหนี้สินเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์สำคัญในชีวิต เช่น การเรียนต่อ การซื้อรถ หรือแม้แต่การซื้อโน้ตบุ๊กเครื่องใหม่ เป้าหมายของการออมคือการสร้างนิสัยที่ทำให้คุณสามารถวางแผนล่วงหน้าโดยไม่ต้องคอยวิ่งตามแก้ไขปัญหาที่ถาโถมเข้ามา
วิธีเสริมสร้างนิสัยการออมเงิน :
หนี้เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่หลายคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้การศึกษา บัตรเครดิต หรือสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิธีในการจัดการหนี้ การมีความรู้ทางการเงินจะช่วยให้คุณสามารถกู้เงินอย่างมีความรับผิดชอบ รู้จักติดตามการชำระเงิน และหลีกเลี่ยงกับดักดอกเบี้ยสูงได้อย่างชาญฉลาด
ดังนั้นการจัดการหนี้ที่ดีจึงหมายถึงการเข้าใจเงื่อนไขการชำระเงินคืนก่อนตัดสินใจกู้เงิน การรู้ต้นทุนของดอกเบี้ยบัตรเครดิต และการควบคุมยอดชำระรายเดือนให้อยู่ในระดับที่จัดการได้ ซึ่งการบริหารหนี้อย่างมีประสิทธิภาพไม่เพียงช่วยรักษาเครดิตของคุณเท่านั้น แต่ยังเปิดทางให้คุณมีอิสระทางการเงินมากขึ้นในอนาคตอีกด้วย
เคล็ดลับในการจัดการหนี้ :
แม้จะดูเหมือนเร็วเกินไปที่จะคิดเรื่องเกษียณ แต่ยิ่งเริ่มต้นเร็วเท่าไร เงินของคุณก็ยิ่งมีโอกาสเติบโตมากขึ้นเท่านั้น เพราะดอกเบี้ยทบต้นจะช่วยเปลี่ยนเงินก้อนเล็กในวันนี้ให้กลายเป็นเงินก้อนใหญ่ในวันข้างหน้า
ขั้นตอนสำหรับการเริ่มต้นวางแผนเกษียณ :
แม้ทักษะทางการเงินจะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน แต่ระดับความรู้เท่าทันทางการเงินของผู้คนทั่วโลกกลับยังคงอยู่ในระดับต่ำโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่
ช่องว่างนี้ไม่ใช่เพียงปัญหาระดับปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อชุมชน สถานที่ทำงาน และระบบเศรษฐกิจโดยรวม เมื่อขาดพื้นฐานทางการเงินที่ดี การตัดสินใจที่ผิดพลาดก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย โอกาสดี ๆ มักถูกมองข้ามไป และความเสี่ยงต่าง ๆ ก็ไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม
การปิดช่องว่างนี้จึงต้องเริ่มจากการศึกษาที่เปิดโอกาสให้คุณเรียนรู้เรื่องการเงินในแบบที่เข้าถึงง่าย ใช้ได้จริง และสอดคล้องกับความท้าทายในโลกปัจจุบัน ที่สถาบันชั้นนำอย่าง HIM Business School ความรู้ทางการเงินไม่ได้แยกออกเป็นเพียงวิชาเดี่ยวเท่านั้น แต่สอดแทรกเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเรียน
นักศึกษาจะได้เรียนรู้หลักการทางการเงินโดยปูพื้นฐานตั้งแต่การจัดการรายรับรายจ่าย ความเข้าใจในระบบเศรษฐกิจ ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจ ทักษะเหล่านี้จะถูกปลูกฝังให้กับนักศึกษาตลอดทั้งหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร Bachelor of Business Administration in Management หรือ Bachelor of Business Administration in Hospitality Management เพื่อให้บัณฑิตทุกคนจบการศึกษาไปพร้อมความเข้าใจด้านการเงินอย่างแท้จริง และสามารถนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเองได้อย่างมั่นใจ
ทักษะทางการเงินเป็นสิ่งที่พัฒนาได้จากการรับมือกับสถานการณ์จริงอย่างต่อเนื่อง การได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ และการเข้าถึงเครือข่ายที่เปิดโอกาสให้เติบโต เมื่อมีพื้นฐานความรู้ที่แข็งแรง เราจะสามารถประเมินทางเลือกต่าง ๆ ได้อย่างมีวิจารณญาณ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบเงื่อนไขเงินกู้ การเลือกแผนประกัน หรือการตัดสินใจลงทุน
หลักสูตรการศึกษาในระบบคือหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการสร้างพื้นฐานความรู้ทางการเงินที่แข็งแกร่ง และอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเลือกสถาบันที่ได้มาตรฐานระดับสากล ที่ HIM นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากหลักสูตรที่มุ่งเน้นด้านธุรกิจโดยเฉพาะผ่านวิชาที่หลากหลาย เช่น หลักการบัญชี บัญชีการเงินและบัญชีบริหาร ทั้งยังสามารถเลือกเรียนเอกวิชาการเงิน (Finance Major) ที่เปิดโอกาสให้เรียนรู้ระบบการเงินอย่างลึกซึ้ง ฝึกตัดสินใจจากข้อมูลจริง และวิเคราะห์ความเสี่ยงเทียบกับผลตอบแทน
ทักษะทางการเงินไม่ได้เกิดขึ้นจากการเรียนรู้เท่านั้น แต่ยังมาจากการหล่อหลอมโดยผู้คน อุตสาหกรรม และแนวคิดที่นักศึกษาได้สัมผัสระหว่างทาง นั่นจึงเป็นเหตุผลที่การสร้างเครือข่ายกลายเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของประสบการณ์การเรียนรู้ที่ HIM
ในแต่ละปีนักศึกษาจาก HIM จะได้เข้าร่วม International Recruitment Forum (IRF) งานประชุมแนะแนวอาชีพระดับนานาชาติที่รวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายวงการเข้าด้วยกัน ทั้งบริษัทชั้นนำจากทั่วโลก ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ และนักศึกษาจากสถาบันต่าง ๆ งานประชุม IRF มีบริษัทนานาชาติสนใจเข้าร่วมกว่า 100 แห่ง จึงเป็นการเปิดประตูสู่โอกาสในแวดวงการเงิน ธุรกิจสินค้าหรู งานปฏิบัติการ และอีกมากมาย นอกจากนี้นักศึกษายังได้ฝึกใช้ทักษะทางการเงินที่ได้เรียนรู้มาในการสัมภาษณ์งาน การตรวจสอบและปรับปรุงเรซูเม่ (CV Review) ตลอดจนการถามตอบกับผู้ว่าจ้าง
ประสบการณ์เหล่านี้ไม่เพียงช่วยเสริมความมั่นใจ แต่ยังปลูกฝังให้นักศึกษารู้จักประเมินข้อเสนองาน วิเคราะห์ฐานเงินเดือน และตัดสินใจทางการเงินได้อย่างรอบคอบตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของอาชีพ
การมีความรู้ทางการเงินไม่ใช่แค่ทักษะทางธุรกิจ หากแต่คือพลังมอบความมั่นใจให้กับผู้ที่กล้าคว้าโอกาส ฝ่าฟันอุปสรรค ตลอดจนสร้างคุณค่าให้กับชุมชนและอุตสาหกรรมของตนเอง หลักสูตรบริหารธุรกิจที่ HIM Business School ผสานหลักการทางการเงินเข้ากับการเรียนรู้ทักษะธุรกิจจากสถานการณ์จริง เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ความเข้าใจรอบด้านและสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในทุกบริบท หากคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร ติดต่อทีม Swiss Education Group ประเทศไทยได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-652-1481 หรือ LINE @studyinswitzerland เพื่อพูดคุยกับเราโดยตรง
ทักษะทางการเงิน กับการศึกษาด้านการเงิน แตกต่างกันอย่างไร ?
ทักษะทางการเงิน (Financial Literacy) คือความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับแนวคิดทางการเงิน เช่น การวางแผนงบประมาณ การออมเงิน เครดิต และการลงทุน ในขณะที่การศึกษาด้านการเงิน (Financial Education) คือการเรียนรู้ในรูปแบบหลักสูตรที่มีโครงสร้างชัดเจน ช่วยให้ผู้เรียนนำความรู้นั้นไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงินได้อย่างมีหลักการ
ทักษะทางการเงินเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมสอบเข้าหลักสูตร MBA หรือไม่ ?ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วการสอบเข้าหลักสูตร MBA (เช่น CAT หรือ GMAT) มักเน้นการทดสอบความถนัดทางคณิตศาสตร์ ความสามารถในการใช้ภาษา และการใช้เหตุผลเชิงตรรกะมากกว่าเรื่องการเงินส่วนบุคคล