สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการมีอะไรบ้าง ?


สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการมีอะไรบ้าง ?

อุตสาหกรรมการบริการมักจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่แน่นอนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ความสำเร็จของธุรกิจจึงขึ้นอยู่กับการรักษาสมดุลระหว่างราคา กำไร และความพึงพอใจของลูกค้า การรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ต้องอาศัยกลยุทธ์การบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน การดำเนินงานให้ราบรื่น หรือการมอบบริการที่โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

ทำไมการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการจึงสำคัญ ?

โรงแรมและรีสอร์ตต้องเผชิญกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความผันผวนตามฤดูกาล ต้นทุนการดำเนินงานที่สูง การแข่งขันที่เข้มข้น และความคาดหวังของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการจึงเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่รอดและความก้าวหน้าในธุรกิจ โรงแรมที่บริหารการเงินได้ดีจะสามารถนำกำไรกลับมาลงทุนในด้านการบริการลูกค้า พัฒนาทักษะของพนักงาน ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก และเตรียมรับมือกับวิกฤตที่ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถปรับตัวตามภาวะตลาดด้วยการวางแผนงบประมาณและควบคุมต้นทุนโดยไม่ลดทอนมาตรฐานในการให้บริการลูกค้า

การบริหารการเงินที่ไม่มีประสิทธิภาพอาจนำไปสู่ปัญหากระแสเงินสดขาดมือ ความขาดแคลนทรัพยากรในการดำเนินงาน และคุณภาพการบริการที่ถดถอยลง หากไม่มีการบริหารการเงินที่เหมาะสม โรงแรมอาจประสบปัญหาในการชำระค่าสินค้าและบริการให้ซัพพลายเออร์ การดูแลรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก หรือแม้แต่การรักษาบุคลากรที่มีความสามารถไว้กับองค์กร สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และบั่นทอนความสำเร็จของโรงแรมในระยะยาว

แง่มุมสำคัญของการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการมีอะไรบ้าง ?

แง่มุมสำคัญของการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการมีอะไรบ้าง ?

กลยุทธ์การจัดทำงบประมาณและควบคุมต้นทุน

ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือการท่องเที่ยว ทุกธุรกิจบริการต่างต้องมีการจัดทำงบประมาณอย่างมีแบบแผนเพื่อจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุน และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน แผนงบประมาณที่ดีไม่เพียงแต่สร้างกำไรให้ธุรกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่าย ส่งเสริมการลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาว อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถปรับตัวตามแนวโน้มตลาดได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงทีอีกด้วย

ในธุรกิจบริการ การจัดทำงบประมาณแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่ :

  • งบประมาณการดำเนินงาน (Operational Budgeting) : มุ่งเน้นที่ค่าใช้จ่ายในแต่ละวันและการคาดการณ์รายได้เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้มีความราบรื่นต่อเนื่อง
  • งบประมาณการลงทุน (Capital Budgeting) : ใช้สำหรับการลงทุนระยะยาว เช่น การปรับปรุงสถานที่ การซื้ออุปกรณ์ใหม่ หรือการขยายธุรกิจในอนาคต

นอกจากนี้ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ธุรกิจบริการต้องมีกลยุทธ์ควบคุมต้นทุนอย่างรอบด้าน เช่น :

  • การลดต้นทุนด้านพลังงานและสาธารณูปโภค : ติดตั้งระบบประหยัดพลังงาน ตรวจสอบการใช้ทรัพยากรอย่างสม่ำเสมอ และปรับใช้แนวทางที่ยั่งยืนเพื่อลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว 
  • การจัดการต้นทุนแรงงาน : จัดตารางเวลาการทำงานให้เหมาะสม ฝึกอบรมพนักงานให้ทำงานได้หลากหลาย และใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  • การเพิ่มประสิทธิภาพของสินค้าคงคลังและห่วงโซ่อุปทาน : ลดความสูญเปล่า เจรจาต่อรองกับซัพพลายเออร์ให้ได้ราคาที่เหมาะสม และติดตามปริมาณสินค้าคงคลังเพื่อป้องกันการขาดทุน 

การบริหารรายได้และกลยุทธ์การตั้งราคา

การบริหารรายได้ (Revenue Management) คือการปรับกลยุทธ์ด้านราคาและการจัดการห้องพักหรือสินค้าให้เหมาะสมเพื่อผลกำไรสูงสุด โดยพิจารณาจากความต้องการของลูกค้า ความเปลี่ยนแปลงของตลาด และพฤติกรรมของผู้เข้าพัก แนวคิดนี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถขายสินค้าตรงกับความต้องการลูกค้า ในช่วงเวลาที่เหมาะสมและราคาคุ้มค่าที่สุด

อุตสาหกรรมการโรงแรมมีกลยุทธ์การตั้งราคาหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ :

  • Package Pricing (การตั้งราคาแบบแพ็กเกจ) : การรวมบริการต่าง ๆ เช่น ที่พัก อาหาร และกิจกรรมเข้าไว้ในแพ็กเกจพิเศษพร้อมส่วนลด เพี่อเพิ่มความคุ้มค่าและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจจองง่ายขึ้น 
  • Dynamic Pricing (การปรับราคาตามสถานการณ์) : การเปลี่ยนแปลงราคาห้องพักแบบเรียลไทม์ โดยอ้างอิงจากปัจจัยตลาด คู่แข่ง และปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อราคา 
  • Yield Management (การบริหารรายได้ต่อห้อง) : การปรับราคาและจำนวนห้องว่างให้สมดุลเพื่อให้เกิดรายได้สูงสุด โดยเน้นการหาจุดที่เหมาะสมระหว่างอัตราการเข้าพักกับราคาห้องเฉลี่ยต่อคืน
  • Segment-Based Pricing (การตั้งราคาตามกลุ่มลูกค้า) : การกำหนดราคาที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม เช่น นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวทั่วไป หรือสมาชิกโปรแกรมสะสมแต้ม 

การบริหารกระแสเงินสด

กระแสเงินสดเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร หรือบริษัทท่องเที่ยว การมีกระแสเงินสดที่ไหลเวียนอย่างต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถดูแลค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น เงินเดือนพนักงาน ค่าวัตถุดิบและสินค้าคงคลัง ค่าบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายประจำวัน  

เพื่อรักษาสถานการณ์ด้านการเงินให้มั่นคง ธุรกิจต่าง ๆ ควรปรับใช้กลยุทธ์ต่อไปนี้ 

  • การควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน : ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น ป้องกันการสั่งซื้อสินค้าที่มากเกินไป รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพด้านแรงงานและพลังงานเพื่อรักษาผลกำไร
  • การคาดการณ์กระแสเงินสดอย่างแม่นยำ : คาดการณ์รายรับและรายจ่ายล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือกับฤดูท่องเที่ยวและช่วงเวลานอกฤดูท่องเที่ยว ป้องกันการขาดสภาพคล่อง และวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ
  • การบริหารบัญชีลูกหนี้และเจ้าหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ : ส่งเสริมให้ลูกค้าชำระเงินตรงเวลา เจรจากับซัพพลายเออร์เพื่อให้ได้เงื่อนไขที่ดีขึ้น และใช้ช่องทางการชำระเงินดิจิทัลเพื่อปรับปรุงกระแสเงินสด

อะไรคือความท้าทายของการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการ ?

ต้นทุนการดำเนินงานสูง

การบริหารต้นทุนการดำเนินงานที่สูง เช่น ค่าแรง ค่าสาธารณูปโภค ค่าอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงค่าบำรุงรักษาทรัพย์สินของโรงแรม ถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษาความสามารถในการทำกำไร โดยต้นทุนหลักที่ควรให้ความสำคัญมีดังนี้ :

  • ค่าบำรุงรักษาทรัพย์สิน : การซ่อมแซม การปรับปรุงสถานที่ ค่าทำความสะอาด และบริการรักษาความปลอดภัย
  • ค่าแรง : เงินเดือน ค่าจ้าง สวัสดิการ และค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมพนักงาน
  • ค่าสาธารณูปโภค : ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ได้แก่ ค่าไฟฟ้า น้ำประปา แก๊ส และอินเทอร์เน็ต 
  • ค่าอาหารและเครื่องดื่ม : ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ครอบคลุมการจัดซื้อวัตถุดิบ การบริหารคลังสินค้า และการลดของเสียจากครัว

ผลกระทบทางการเงินจากความผันผวนของตลาด

ปัจจัยภายนอกอย่างการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ วิกฤตสุขภาพระดับโลก ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ ล้วนส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจบริการ ปัญหาเหล่านี้มักทำให้ความต้องการเดินทางลดลง ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น และห่วงโซ่อุปทานเกิดภาวะชะงักงัน :

  • ภาวะเศรษฐกิจถดถอย : เมื่อผู้คนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ยอดจองโรงแรมมักลดลง ร้านอาหารเงียบเหงา และงานอิเวนต์มีผู้เข้าร่วมน้อยลงกว่าที่เคย
  • โรคระบาด : ข้อจำกัดด้านการเดินทางและความกังวลเรื่องสุขภาพทำให้อัตราการเข้าพักลดลง จึงส่งผลกระทบต่อรายได้ในธุรกิจบริการ
  • ความไม่มั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ : ความขัดแย้งทางการเมืองและสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเกิดความลังเล และส่งผลให้ทริปธุรกิจน้อยลง
  • ภัยพิบัติทางธรรมชาติ : ความเสียหายต่อสถานที่และโครงสร้างพื้นฐานอาจทำให้โรงแรมต้องปิดให้บริการชั่วคราว ส่งผลให้จำนวนลูกค้าลดลง 

การป้องกันการฉ้อโกงและความมั่นคงทางการเงิน

การฉ้อโกงทางการเงินอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อทั้งกำไร ชื่อเสียงของโรงแรม และความไว้วางใจของลูกค้า ซึ่งความเสี่ยงที่พบได้บ่อยมีดังนี้ :

  • การฉ้อโกงเกี่ยวกับการชำระเงิน : การปฏิเสธการชำระเงินเพื่อเรียกเงินคืน (Chargeback Scam), การใช้บัตรเครดิตปลอม, หรือการจองที่พักโดยมีเจตนาไม่สุจริต ซึ่งทำให้โรงแรมเกิดความเสียหาย
  • การทุจริตของพนักงาน : การยักยอกเงินสด, การให้ส่วนลดโดยไม่ได้รับอนุญาต, และการใช้ทรัพยากรขององค์กรอย่างไม่เหมาะสม
  • ภัยคุกคามทางไซเบอร์ : การละเมิดข้อมูล, การหลอกลวงทางอีเมล (Phishing), และการโจมตีระบบชำระเงินออนไลน์ 

แนวทางการปฏิบัติเพื่อการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการอย่างมีประสิทธิภาพ

การวางแผนการเงินอย่างรัดกุม การตรวจสอบบัญชีอย่างสม่ำเสมอ และการฝึกอบรมพนักงานให้มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงิน ล้วนเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารการเงินในโรงแรมอย่างมีประสิทธิภาพ 

แนวทาง การบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการ

การวางแผนการเงินอย่างรัดกุม

การวางแผนการเงินอย่างมีประสิทธิภาพเป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงและการเติบโตของโรงแรมทุกแห่ง โดยเป้าหมายของการวางแผนการเงินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 

  • เป้าหมายระยะยาวเพื่อสนับสนุนการเติบโตในอนาคต เช่น การขยายสาขา การปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวก และการลงทุนเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า
  • เป้าหมายระยะสั้นที่มุ่งเน้นความมั่นคงทางการเงิน เช่น การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และการเพิ่มกระแสเงินสดให้ไหลเวียนได้ดี

การตรวจสอบบัญชีอย่างสม่ำเสมอ

การตรวจสอบบัญชีเป็นประจำช่วยให้โรงแรมและร้านอาหารสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุน และป้องกันการทุจริต การตรวจสอบเหล่านี้จะช่วยให้พบความคลาดเคลื่อนในการดำเนินงาน ระบุจุดที่ควรปรับปรุง ตรวจจับความผิดปกติทางการเงิน และช่วยให้ธุรกิจสามารถตัดสินใจด้านงบประมาณได้อย่างรอบคอบ

การอบรมพนักงานให้มีความรู้ด้านการเงิน

การอบรมพนักงานให้มีความรู้ด้านการเงินจะช่วยให้พนักงานเข้าใจถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเองที่ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างความรับผิดชอบในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ หัวข้อด้านการเงินที่ควรให้ความสำคัญในการอบรม ได้แก่ 

  • การตระหนักรู้และป้องกันความเสี่ยงจากการทุจริตคือสิ่งสำคัญเช่นกัน พนักงานควรเข้าใจถึงความเสี่ยงทางการเงิน เช่น การจัดการเงินสดผิดพลาด หรือการปลอมแปลงใบแจ้งหนี้ โรงแรมควรกำหนดขั้นตอนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการรับชำระเงินและส่วนลด ตรวจสอบภายในอย่างสม่ำเสมอ และอบรมเรื่องจริยธรรมทางการเงินเพื่อลดโอกาสในการสูญเสียและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับองค์กร 
  • การลดของเสียโดยไม่ลดคุณภาพของการบริการ โดยเน้นฝึกอบรมพนักงานให้บริหารจัดการปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม ตรวจสอบสินค้าคงคลังอย่างสม่ำเสมอ และลดการใช้พลังงานหรือทรัพยากรโดยไม่จำเป็น
  • การฝึกอบรมพนักงานต้อนรับให้ใช้กลยุทธ์ Upselling และ Cross-selling เช่น การเสนอการอัปเกรดห้องพัก บริการเสริม หรือเมนูพรีเมียมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้เข้าพัก

เทรนด์ใหม่ ๆ ของการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการ

สถานการณ์เกี่ยวกับการบริหารการเงินในธุรกิจบริการกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เทรนด์ใหม่ ๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทในธุรกิจมากขึ้น เช่น ระบบการชำระเงินดิจิทัล, แนวทางการบริหารการเงินอย่างยั่งยืน และการใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มกำไร ลดค่าใช้จ่าย และดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ระบบการชำระเงินดิจิทัล

ความคาดหวังที่เปลี่ยนไปของลูกค้าทำให้อุตสาหกรรมการบริการจำเป็นต้องปรับตัวอยู่เสมอ โรงแรมและร้านอาหารหลายแห่งเริ่มนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินแบบไร้การสัมผัส (Contactless Payments), กระเป๋าเงินดิจิทัล (Mobile Wallets) หรือแม้แต่การใช้สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้ไม่เพียงช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้สะดวกสบายขึ้น แต่ยังช่วยลดเวลาในการทำธุรกรรม และลดความจำเป็นในการใช้เงินสด

เทรนด์ใหม่ ๆ การบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการ

แนวทางการบริหารการเงินอย่างยั่งยืน

การบริหารการเงินอย่างยั่งยืนเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของอุตสาหกรรมการบริการ โรงแรมและร้านอาหารจำนวนมากเริ่มหันมาลงทุนในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แต่ยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ยกตัวอย่างแนวทางการเงินที่ยั่งยืน เช่น การเงินสีเขียว (Green Financing) ซึ่งเป็นรูปแบบของสินเชื่อหรือเงินสนับสนุนเพื่อความยั่งยืน ช่วยให้ธุรกิจมีเงินทุนในการปรับปรุงระบบการดำเนินงานให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่เป็นแรงจูงใจให้ธุรกิจปรับใช้แนวทางที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก

นอกจากจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว การลงทุนเพื่อความยั่งยืนยังส่งผลดีต่อการเงินของโรงแรมในระยะยาวด้วย เช่น

  • การจัดหาสินค้าด้วยแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม : การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนแนวทางการปฏิบัติที่ยั่งยืน โดยยังคงรักษามาตรฐานในการบริการให้ยอดเยี่ยมเช่นเดิม
  • การลดของเสีย : การลดปริมาณอาหารและวัสดุที่สูญเปล่าเพื่อประหยัดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • การใช้น้ำอย่างประหยัด : การติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค

การใช้เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน

วิธีการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เนื่องจากบทบาทของเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งมีส่วนช่วยอย่างมากในการตัดสินใจที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งราคา การพยากรณ์รายได้ หรือการประเมินความเสี่ยง นอกจากนี้ อัลกอริทึมปัญญาประดิษฐ์ (AI-Powered Algorithms) ยังสามารถวิเคราะห์ข้อมูลในอดีต แนวโน้มตลาด และพฤติกรรมของลูกค้า เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตั้งราคาที่เหมาะสมได้ด้วย

กลยุทธ์เหล่านี้ช่วยให้โรงแรมและร้านอาหารสามารถเพิ่มรายได้ในฤดูท่องเที่ยว และยังรักษาความสามารถในการแข่งขันแม้จะอยู่นอกฤดูท่องเที่ยว อีกทั้งการทำ Big Data Analytics ยังช่วยให้ผู้บริหารสามารถระบุแนวโน้มและความเสี่ยงทางการเงินได้โดยการตรวจจับรูปแบบที่เข้าข่ายการขาดทุน การทุจริต หรือการขาดประสิทธิภาพ 

มุ่งสู่ความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการเงินอุตสาหกรรมบริการ

การนำหน้าคู่แข่งในโลกของการบริหารการเงินในธุรกิจบริการไม่ใช่แค่การรักษาสมดุลรายรับรายจ่ายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเข้าใจและปรับตัวตามแนวโน้มใหม่ ๆ อย่างชาญฉลาด ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาด และเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างยั่งยืน

หากคุณสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ทางการเงินโดยเน้นการฝึกปฏิบัติจริง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับการทำงาน และแนวทางการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน เราแนะนำหลักสูตรการโรงแรมจากสถาบันชั้นนำในสวิตเซอร์แลนด์อย่าง Cesar Ritz Colleges ทีมงาน Swiss Education Group พร้อมให้คำแนะนำและช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกสิ่งที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด ติดต่อเราได้เลยที่เบอร์โทรศัพท์ 02-652-1481 หรือ LINE @studyinswitzerland เพื่อพูดคุยกับเราโดยตรง

คำถามที่พบบ่อย

Q : การบริหารการเงินในโรงแรมขนาดเล็กและเครือโรงแรมขนาดใหญ่แตกต่างกันอย่างไร ?

A : โรงแรมขนาดเล็กมุ่งเน้นการจัดการงบประมาณอย่างจำกัดและบริหารเงินสดให้เพียงพอในแต่ละวัน ในขณะที่เครือโรงแรมขนาดใหญ่มีข้อได้เปรียบจากการวางแผนการเงินแบบรวมศูนย์ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนระดับโลก และอำนาจการต่อรองจากการสั่งซื้อจำนวนมาก

Q : การบริหารการเงินส่งผลต่อความพึงพอใจของแขกและคุณภาพการบริการอย่างไร ?

A : การบริหารการเงินที่ดีจะช่วยให้โรงแรมสามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้คุณภาพการบริการดีขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ จึงสามารถยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าพักให้น่าประทับใจยิ่งขึ้น 

Our News & Blogs

วิธีคํานวณต้นทุนอาหาร ลดของเสีย เพิ่มกำไรให้ธุรกิจ

วิธีคํานวณต้นทุนอาหาร ลดของเสีย เพิ่มกำไรให้ธุรกิจ

ทักษะทางการเงิน ความรู้ที่มากกว่าการเรียนธุรกิจสำหรับคนรุ่นใหม่

ทักษะทางการเงิน ความรู้ที่มากกว่าการเรียนธุรกิจสำหรับคนรุ่นใหม่

ตำแหน่ง Concierge คืออะไร ? เจาะลึกหน้าที่ ทักษะ และเส้นทางอาชีพของผู้ช่วยคนสำคัญของธุรกิจ

ตำแหน่ง Concierge คืออะไร ? เจาะลึกหน้าที่ ทักษะ และเส้นทางอาชีพของผู้ช่วยคนสำคัญของธุรกิจ

ขั้นตอนและวิธีการระดมเงินลงทุนธุรกิจ Startup ที่ควรรู้

ขั้นตอนและวิธีการระดมเงินลงทุนธุรกิจ Startup ที่ควรรู้

Chat With Us

Chat

with us

Contact

us

Attend our

seminar