3 เคล็ดลับให้คุณเต็มที่กับการทำงานยิ่งขึ้น เคล็ดลับในการบรรลุความพึงพอใจในงานให้มากขึ้น: โดยสวิสเอ็ดดูเคชั่นกรุ๊ป
คุณเต็มที่กับงานหรือยัง? ถ้ายังไม่ต้องกังวลไป จากการสำรวจของ Gallup ผู้คน 87% จากทั่วโลกรู้สึกแบบเดียวกันด้วยสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันที่จำกัดการเดินทางและการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในการทำงาน จึงไม่น่าแปลกใจที่ หลายคนเลือกที่จะเช็คเอาท์ ระหว่างวันทำงาน ทำให้พวกเขารู้สึกไม่เติมเต็มและไม่รู้สึกถึงความสำเร็จ การฝึกอบรมแบบอินเทอร์แอกทีฟที่ทำให้พนักงานมีส่วนร่วมเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ
Robert Kostecki สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านธุรกิจระหว่างประเทศจาก Swiss Hotel Management School ในปี 2012 และเข้าร่วมแผนกทรัพยากรบุคคลและการฝึกอบรมที่ Six Senses Hotels Resorts Spas ในปี 2014 เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ดำเนินการฝึกอบรมแบบมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบและดูแลให้ความช่วยเหลือในช่วงพรีโอเพนนื่ง
“ความปรารถนาของผมที่จะเป็นครูและเป็นผู้ฝึกอบรมหลังจากเรียนจบนั้นเป็นผลมาจากความเฉื่อยชาของครูบางท่านที่ผมได้เล่าเรียนด้วยมาในอดีต ในขณะที่นักเรียนของผมงีบหลับในชั้นเรียน ผมจะนึกหาวิธีต่างๆ มาอธิบายเนื้อหาเรื่องเดียวกันด้วยการหักมุมที่น่าสนใจยิ่งขึ้น สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผมเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้เร็วขึ้นและยังช่วยให้ผมเข้าถึงวิชาความรู้ที่ผมสอนมากขึ้นอีกด้วย” โรเบิร์ตซึ่งจัดโปรแกรมการฝึกอบรมมากกว่า 100 โปรแกรมให้แก่ 5,000 กว่าคนจากทั่วโลกกล่าว การมีส่วนร่วมในที่ทำงานไม่ใช่แค่ความสนุกและสร้างแรงจูงใจ แต่ยังช่วยให้คุณเชื่อมต่อจุดแข็งและคุณค่าที่คุณพอใจเข้าไว้ด้วยกัน เขากล่าวต่อไปอีกว่า
“บทเรียนสำคัญอย่างหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการทำงานคือ ไม่มีการฝึกอบรมครั้งไหนที่เหมือนกัน เพราะไม่มีใครที่เหมือนกัน เราทุกคนแตกต่างกัน การค้นหาว่าอะไรที่ทำให้คนรู้สึกมีความสุขในการทำงานนั้นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และทำให้แน่ใจว่าทุกคนจะนำความรู้ไปใช้อย่างมีความหมาย”
ต่อไปนี้เป็นสุดยอดเคล็ดลับ 3 ข้อ ของโรเบิร์ต เพื่อให้คุณเข้าถึงงานของคุณมากขึ้นให้คุณรู้สึกถึงความสำเร็จในทุกๆ วันของการทำงาน:
1. ใช้จุดแข็งของคุณ
“ในช่วงที่เรียนปริญญาโท เราทุกคนได้ทำแบบประเมินเพื่อหาจุดแข็งของตัวเองผมจำบทเรียนนั้นได้อย่างขึ้นใจและยังนำไปใช้ฝึกฝนตนเอง” โรเบิร์ตกล่าว ผู้ที่รู้สึกกระตือรือร้นในการทำงานจะมีงานที่สอดคล้องกับจุดแข็งหลักและความพอใจของตนเอง “ตัวอย่างเช่น
จุดแข็งอย่างหนึ่งของผมคือความปรารถนาที่จะได้เรียนรู้อยู่เสมอ ดังนั้นงานใดๆ ก็ตามที่ต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผมจะยกมือทำทันที!”
แต่คุณจะทำอย่างไรเมื่องานของคุณไม่ตรงกับจุดแข็งของคุณโรเบิร์ตแนะนำให้ปรับงานใหม่เพื่อให้เหมาะกับคุณมากขึ้น ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับตัวงานเองความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงาน หรือความคิดของคุณ “ถามตัวเองว่า คุณจะปรับแต่งงานที่น่าเบื่อเพื่อใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของคุณได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น
หากคุณเป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียด จงรับงานด้านการปฏิบัติงานมากขึ้นหรือทำงานที่ใช้เวลาเพื่อแบ่งปันข้อมูลที่คุณเก็บเกี่ยวไว้แก่ผู้อื่น”
เมื่อเกิดโรคระบาด พนักงานจำนวนมากต้องรับหน้าที่ใหม่เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กร สำหรับหลายๆคน ความรับผิดชอบเหล่านี้นำมาซึ่งความเครียด ซึ่งทำให้เรารู้สึกอินกับงานน้อยลง เทคนิคหนึ่งที่โรเบิร์ตแนะนำคือการช่วยให้พวกเขาคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ให้แตกต่างออกไป “ยกตัวอย่างเช่น ผมช่วยเพื่อนร่วมงานเปลี่ยนกรอบความคิดของเขาจากตอนนี้ฉันชงกาแฟ เป็นการชงกาแฟของฉัน ทำให้ผู้คนมีความสุขและให้พลังงานแก่พวกเขา”
หากคุณไม่แน่ใจว่าจุดแข็งของคุณคืออะไร โรเบิร์ตแนะนำให้คุณลองทำแบบประเมินจุดแข็งห้าอันดับแรกของ Gallup ที่มีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย แต่คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์อันคุ้มค่าอย่างแน่นอน
2. ฉลองชัยชนะอันเล็กน้อย
“เช่นเดียวกับแต่ละโครงการและรายงานในโรงเรียนที่ส่งผลต่อเกรดของคุณ ความคืบหน้าในงานที่คุณทำในแต่ละวันในที่ทำงานนั้น ก็มีส่วนทำให้คุณรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของทีม” โรเบิร์ตกล่าว กิจกรรมการฝึกอบรมอย่างหนึ่งที่โรเบิร์ตใช้คือ การขอให้พนักงานระบุชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้พวกเขารู้สึกดีใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา “ผมอธิบายว่า เพราะความล้มเหลวเล็กๆ น้อยๆ มักจะครอบงำความรู้สึกของเราในแต่ละวัน แต่เรากลับไม่ใช้เวลาเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ” ความก้าวหน้าในงานที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยสามารถเพิ่มการมีส่วนร่วมและให้ความรู้สึกพึงพอใจได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานให้เสร็จตามกำหนดเวลาหรือเพื่อนร่วมงานที่เปิดรับแนวคิดใหม่ๆ ของคุณ โรเบิร์ตกล่าวว่า
“การโฟกัสไปที่ความก้าวหน้าที่คุณทำ จะส่งเสริมอารมณ์เชิงบวกและกระตุ้นการมีส่วนร่วม” นอกจากนี้การฉลองชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ นอกสถานที่ทำงานยังสามารถมอบความสุขและความพึงพอใจในชีวิตได้อีกด้วย
3. สร้างช่วงเวลาแห่ง "ความลื่นไหล"
“ในช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่ Swiss Hotel Management School อาจารย์มักจะเน้นย้ำถึงความสำคัญของความคิดสร้างสรรค์ ผมจำได้ว่าได้ฝึกออกแบบแนวคิดร้านอาหารและกลยุทธ์การตลาดแบบกองโจร (guerilla marketing strategies) แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอินกับแนวคิดนี้ จนกระทั่งวันที่ผมต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์นั้นในสถานการณ์จริงผมจึงได้ตระหนักถึงคุณค่าของมัน” โรเบิร์ตกล่าวโรเบิร์ตชี้ว่าแก่นหลักในการฝึกอบรมเพื่อบรรลุถึงการมีส่วนร่วมในที่ทำงานของเขา คือ แนวคิดที่มุ่งเน้นให้สภาวะจิตใจมีความลื่นไหล "สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อบุคคลหนึ่งหมกมุ่นอยู่กับกิจกรรมอย่างเต็มที่หากคุณเคยทำงานบางอย่าง แบบลืมเวลา และลืมโลกภายนอก นั่นแหละ คุณเพิ่งได้สัมผัสประสบการณ์ของ "การลื่นไหล" เขากล่าวว่า "ความลื่นไหล" เป็นสิ่งมหัศจรรย์ในที่ทำงาน เพราะเมื่อเรารักในสิ่งที่เราทำ เราจะรู้สึกมีพลังรู้สึกถึงการได้ควบคุม และรู้สึกท้าทายอย่างเหมาะสม เขาแนะนำให้พยายามหาช่วงเวลาของ "การลื่นไหล" โดยหางานที่ต้องใช้สมาธิอย่างเต็มที่และทำงานนั้นเมื่อพลังงานของคุณสูงสุด “การบรรลุถึงการลื่นไหลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป และอาจต้องใช้เวลาในการค้นหาสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมหรืองานที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ด้วยการฝึกฝน ใครๆ ก็สามารถเข้าถึง "การลื่นไหล" และเพิ่มการมีส่วนร่วมโดยรวมในที่ทำงานได้อย่างมีนัยสำคัญ” โรเบิร์ตกล่าว
Robert Kostecki
Robert Kostecki เป็นผู้จัดการกลุ่มฝ่ายฝึกอบรมและโครงการที่ Six Senses Hotels Resorts Spas ผู้หลงใหลในการขยายขอบเขตการศึกษาในอุตสาหกรรมการบริการ จากการทำงานในครัว การจัดฝึกอบรมทั่วโลก และแม้แต่การเป็นดีเจนอกเวลา เขาไม่เคยลืมและยังรักในธุรกิจการบริการ - เพราะไม่มีวันไหนที่เหมือนกัน